ประวัติความเป็นมาตลาดร่มหุบ

บทความนี้ ทีมงาน เซียนร่ม จะขออาสาเป็นไกด์พาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของสถานที่อันน่าทึ่งแห่งนี้ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดา ตารางเวลารถไฟที่ทุกคนรอคอย เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของตลาดบนทางรถไฟพร้อมกันครับ

ตลาดร่มหุบ ตลาดเสี่ยงตายแห่งเดียวในโลก

ตลาดร่มหุบ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตลาดเสี่ยงตาย” เป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนทางรถไฟสายแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ทีมงาน เซียนร่ม มีโอกาสได้ไปศึกษาตลาดแห่งนี้หลายครั้ง และประทับใจกับเอกลักษณ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน

ความพิเศษของตลาดแห่งนี้คือเป็นตลาดเพียงแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนทางรถไฟ ขณะที่ร้านค้าต้องหุบร่มและเก็บของทุกครั้งที่รถไฟผ่าน สร้างภาพที่น่าตื่นเต้นและหาดูที่ไหนไม่ได้

ประวัติและความเป็นมาของตลาดร่มหุบ

จัดเริ่มต้นของตลาด

ตลาดร่มหุบเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2527 จากการที่ชาวบ้านในพื้นที่นำสินค้าผลไม้และผักมาขายริมทางรถไฟ เนื่องจากเป็นจุดที่คนผ่านไปมาเยอะและเข้าถึงได้ง่าย

เริ่มแรกมีเพียงแผงขายของเล็กๆ ไม่กี่ร้าน แต่ด้วยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของชุมชน จึงค่อยๆ ขยายตัวจนกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 300 ร้าน

พัฒนามาจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ในช่วงแรกตลาดแห่งนี้เป็นเพียงตลาดสดธรรมดาที่ให้บริการชุมชนท้องถิ่น แต่เมื่อสื่อและนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมาถ่ายทำและเผยแพร่เรื่องราวของตลาด ความมหัศจรรย์ของการหุบร่มเก็บของเมื่อรถไฟมาจึงได้รับความสนใจ

ปัจจุบันตลาดร่มหุบได้รับการยอมรับว่าเป็น “ตลาดหวาดเสียวที่สุดในโลก” และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทย

ปรากฏการณ์ร่มหุบที่น่าทึ่ง

กระบวนการหุบร่มเก็บของ

เมื่อมีเสียงแตรรถไฟดังขึ้น พ่อค้าแม่ค้าจะรีบเร่งหุบร่มและเก็บสินค้าที่วางอยู่บนทางรถไฟ กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียง 2-3 นาที และต้องทำด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

ระยะห่างระหว่างรถไฟกับแผงสินค้าเพียงไม่ถึง 2 เมตร ทำให้เกิดภาพที่ทั้งตื่นเต้นและน่าประทับใจ โดยรถไฟจะลดความเร็วลงเหลือประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความชำนาญของพ่อค้าแม่ค้า

พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดร่มหุบล้วนมีความชำนาญและประสบการณ์สูง การเก็บของและหุบร่มจึงเป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย ทีมงาน เซียนร่ม ได้เฝ้าสังเกตการณ์หลายครั้ง และชื่นชมในความสามารถของพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้

เวลารถไฟผ่านตลาดร่มหุบ

ตารางเดินรถไฟสายแม่กลอง – บ้านแหลม

รถไฟจะผ่านตลาดร่มหุบวันละ 8 เที่ยว โดยแบ่งเป็นขาออกจากแม่กลอง 4 เที่ยว และขาเข้าแม่กลอง 4 เที่ยว ดังนี้

• ขาออก (จากแม่กลอง) : 06:20 น. | 09:00 น. | 11:30 น. | 15:30 น.
• ขาเข้า (มาแม่กลอง) : 08:30 น. | 11:10 น. | 14:30 น. | 17:40 น.

เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมร่มหุบ

ทีมงาน เซียนร่ม แนะนำให้ไปในช่วงเช้า ประมาณ 08:00-10:00 น. เพราะอากาศยังไม่ร้อนมาก และผู้คนไม่แน่นเกินไป สามารถชมและถ่ายรูปได้สะดวก

หลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ หากต้องการความสงบ เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก

วิธีเดินทางไปตลาดร่มหุบ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) ไปประมาณ 63 กิโลเมตร จากนั้นเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ผ่านสี่แยกโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า แล้วตรงไปจนถึงตลาด

ที่จอดรถมีให้บริการรอบๆ ตลาด ค่าจอดประมาณ 20-40 บาท ควรไปแต่เช้าเพื่อหาที่จอดรถได้ง่าย

การเดินทางด้วยรถไฟ

เริ่มต้นจากสถานีวงเวียนใหญ่ นั่งรถไฟไปสถานีมหาชัย จากนั้นข้ามแม่น้ำด้วยเรือข้ามฟากไปท่าฉลอม แล้วต่อรถไฟอีกขบวนไปแม่กลอง ใช้เวลารวมประมาณ 2-3 ชั่วโมง

ข้อดีของการนั่งรถไฟคือได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางแบบดั้งเดิม และสามารถชมวิวทิวทัศน์ริมทางได้

การเดินทางด้วยรถตู้สาธารณะ

นั่งรถตู้สายแม่กลองจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือจากสถานีขนส่งสายใต้ ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 50-70 บาท รถตู้จะจอดหน้าตลาดพอดี

สินค้าเด่นและของอร่อยในตลาดร่มหุบ

ปลาทูแม่กลอง ราชาแห่งปลาทู

ปลาทูแม่กลองถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้ มีชื่อเสียงว่าเป็น “ปลาทูที่อร่ยที่สุดในประเทศไทย” ด้วยเนื้อที่หวานชุ่มฉ่ำและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ทุกเดือนธันวาคมจะมีการจัดงาน “เทศกาลกินปลาทู” ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อโปรโมทปลาทูแม่กลองให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ผลไม้สดและผักใส

นอกจากปลาทูแล้ว ตลาดร่มหุบยังมีผลไม้สดจากสวนท้องถิ่น เช่น มะม่วง ส้ม มะละกอ ที่มีรสชาติหวานและสดใหม่ ราคาถูกกว่าในกรุงเทพฯ

ผักใสต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักกาด กะหล่ำปลี ยังคงความสดใหม่เพราะมาจากไร่ใกล้เคียง ทีมงาน เซียนร่ม มักซื้อผักใสกลับบ้านทุกครั้งที่ไป

ขนมและอาหารท้องถิ่น

ขนมไทยโบราณ เช่น ขนมโค ขนมครก ขนมถ้วยฟู รวมถึงผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วงแช่อิ่ม ส้มแช่น้ำปลาหวาน ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

เคล็ดลับการเที่ยวตลาดร่มหุบ

เวลาที่เหมาะสมในการไป

ไปในวันธรรมดาจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงมากกว่า เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวแออัด สามารถคุยกับพ่อค้าแม่ค้าและเรียนรู้วิถีชีวิตได้มากขึ้น

ควรไปก่อนเวลารถไฟมาประมาณ 15-20 นาที เพื่อดูการเตรียมตัวหุบร่มและเก็บของ และอยู่ต่อหลังรถไฟผ่านไปแล้ว เพื่อดูการกลับมาขยายร้านใหม่

การถ่ายภาพอย่างปลอดภัย

อย่ายืนบนทางรถไฟเพื่อถ่ายรูป ใช้ตำแหน่งที่ปลอดภัยเช่น บนแท่นยกสูง หรือตำแหน่งที่พ่อค้าแม่ค้าแนะนำ เคารพการทำงานของคนท้องถิ่นและไม่ขวางทาง

การซื้อของฝาก

ซื้อปลาทูแม่กลองเป็นของฝาก และเลือกซื้อผลไม้ที่อยู่ในฤดูกาล ราคาจะถูกและอร่อยที่สุด สอบถามพ่อค้าแม่ค้าเรื่องการเก็บรักษาและการขนส่ง

มุมมองในฐานะผู้ประกอบการร่ม

ทีมงาน เซียนร่ม มองว่าตลาดร่มหุบเป็นตัวอย่างการใช้ร่มในการประกอบอาชีพที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นว่าร่มไม่ได้ใช้เฉพาะกันฝนแดดเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การหุบร่มอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพของพ่อค้าแม่ค้า สะท้อนถึงความสำคัญของการออกแบบร่มที่ควรใช้งานง่ายและทนทาน

ความปลอดภัยและข้อควรระวัง

ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย

ปฏิบัติตามคำแนะนำของพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่ายื่นมือหรือเท้าออกไปนอกแนวปลอดภัย เมื่อรถไฟกำลังจะมา

เด็กเล็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ตลอดเวลา และอย่าให้วิ่งเล่นบนทางรถไฟ

การเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น

แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ตลาดแห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งทำมาหากินของคนท้องถิ่น ควรเคารพและไม่รบกวนการทำงานของพ่อค้าแม่ค้า

บทสรุป

ตลาดร่มหุบเป็นมากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นสัญลักษณ์ของการปรับตัวและความยืดหยุ่นของคนไทย ที่สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว

ทีมงาน เซียนร่ม เชื่อว่าความพิเศษของตลาดแห่งนี้ไม่ได้อยู่ที่การหุบร่มเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความสามัคคีและการทำงานร่วมกันของชุมชน ที่สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งนี้ขึ้นมาได้

การมาเยือนตลาดร่มหุบจึงเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิต การปรับตัว และการใช้ชีวิตร่วมกันของคนไทย ที่น่าภาคภูมิใจและควรอนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง