ร่มดำ ของชำร่วยงานศพ หรือ ของที่ระลึกงานศพ

ร่มดำ ฺโดยปกตินอกจากนำมาใช้ในชีวิตประจำวันกัน ยังได้รับการนิยมนำไปแจกจ่ายเป็น ของที่ระลึกงานศพ เพื่อตอบแทนผู้ที่มาทำการเคารพศพ โดยร่มดำเหตุที่แจกจ่ายให้ยังมีความหมายอีกอย่าง คือ ร่ม เย็น เป็นสุข นอกจากความหมายที่ดีแล้วยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยโดยท่านสามารถเลือกลักษณะของร่มดำได้ตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นแบบตอนเดียว หรือร่มหลายตอน ได้ที่เว็ปไซต์  เซียนร่ม

หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าของชำร่วย หรือ ของพรีเมี่ยมคืออะไร ขออธิบายสั้นไว้เพื่อความไม่สับสนว่า สินค้าพรีเมี่ยม เป็น สินค้าที่แจกจ่ายเพื่อสมนาคุณลูกค้าตามวาระต่างๆ หรือนิยมแจกจ่ายเป็นของชำร่วยตามงานฌาปนกิจ วันครบรอบ วันแต่งงาน

สามารถอ่านต่อได้ที่ สินค้าพรีเมี่ยม

 

การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม

โดยปกติงานศพจะเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เราจึงควรต้องเคารพญาติผู้เสียชีวิตด้วยการแต่งกายให้สุภาพเหมาะสม โดยปกติแล้วการไปร่วมงานศพก็ควรใส่เสื่อผ้าสีเข้มๆและเรียบร้อย ส่วนเครื่องประดับอย่าใส่ให้มากชิ้น อาจจะมีบางกรณีที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตระบุสีทีต้องการของชุด เป็นธีมให้ใส่ไปงานศพ ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็ไม่ต้องทำตามธรรมเนียมเดิมก็ได้ ความต้องการของครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ควรคำนึงถึง

1.เลือกเสื้อผ้าสีดำหรือสีที่มีความเข้มสูง ตามธรรมเนียมแล้วเสื้อผ้าที่ใส่ไปงานศพควรเป็นสีดำ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ยึดหลักธรรมเนียมนี้อย่างเคร่งครัด จะเห็นว่ามีหลายๆคนที่ใส่ชชุดสีเทาหรือกรมท่าไปร่วมงานศพ หากท่านไม่ใส่ชุดสีดำก็ให้ขอเลือกชุดที่มีสีเข้มๆหรือหม่นแทนได้

• หากท่านจะใส่เสื้อผ้าสีอื่นแทนสีดำ ให้เลือกสีเข้มหรือสีโทนกลางๆ เข้าไว้ก่อน ตัวอย่าง เช่น สีกรมท่า สีเขียวเข้ม หรือสีน้ำตาลก็ยังดี
• ให้ทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเพราะถ้าเป็นธรรมเนียมดั้งเดิมก็ควรระวังและเลือกใส่สีดำ ตามธรรมเนียมจะดีกว่าเพื่อเป็นการเคารพครอบผู้เสียชีวิตอีกด้วย

2.อย่าใส่เสื้อผ้าสีสด ไปงานศพเด็ดขาด เพราะสีบางสีอาจทำให้ดูเป็นการไม่เคารพกันได้ ถึงแม้ว่าท่านจะมาด้วยใจที่หวังดีแต่หาสวมชุดเสื้อสีสดมา ก็หากทำให้เข้าใจผิดกันได้ง่าย ถึงแม้ว่าบางชาติจะถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งการเฉลิมฉลองอีก ยิ่งควรต้องระวังอย่าใสชุดที่มีสีแดงสดไปร่วมงานศพ

* แต่ในบางกรณีก็มีข้อยกเว้นสำหรับธรรมเนียมนี้บ้าง เพราะบางครั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตอาจจะขอให้ใส่ชุดสีตามที่เค้าต้องการเพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้เสียชีวิต

3.เลือกชุดเรียบๆ พยายามอย่าให้ชุดที่สวมใส่ไปมีลวดลายมากนัก เพื่อเป็นการให้ความเคารพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย อาจจะมีลูกไม้เล็กน้อยก็ยังพอได้หรือเป็นเสื้อเชิ้ตลายทางสีเข้ม แต่ถึงยังไงก็ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่มีลายสดใสสะดุดตา โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีสีสันฉูดฉาดด้วย และรวมไปถึงชุดที่รัดรูปจนเกินไปก็ไม่ควรนำมาใส่ไปงานศพ

การเลือกเครื่องประดับ

1.เลือกรองเท้าที่ดูเป็นทางการแต่ใส่สบาย เพราะมีความจำเป็นหากท่านไปร่วมพิธีตั้งศพหรือพิธีฝังหลังงานศพแล้วนั้นท่านอาจจะมีความจำเป็นต้องยืนและเดินตลอดเวลา จนอาจทำให้ขาล้าแล้วปวดได้ จึงควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบายดีกว่าที่จะเลือกรองเท้าส้นสูงมาใส่ และสีของรองเท้าก็ควรเป็นสีเข้มอีกด้วย

• ควรเลือกรองเท้าสีเข้มที่สุภาพและเป็นทางการ อาจจะเป็น รองเท้าหนังหรือรองเท้าส้นเตี้ยสีดำก็ได้ สีส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหาอาจจะเป็นสีเขียวเข้ม กรมท่า เทา หรือดำก็เหมาะสมกับงานทั้งนั้น
• ถ้าไม่ใช่งานที่เป็นทางการมาก จะรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าผ้าใบไปร่วมงานก็ยังได้ แต่เลือกสีดำแบบสุภาพไว้ก่อนจะดีที่สุด

2.เนคไทที่เรียบง่าย หากจะผูกเนคไท ควรเลือกแบบเรียบๆ หลิกเลี่ยงเนคไทที่มีสีสันสดหรือลวดลายที่โดดเด่นฉูดฉาด ถ้าจะให้เหมาะกับงานศพที่สุดควรเป็นเนคไทสีพื้นหรือแบบไม่มีลวดลาย และอย่าลืมเลือกสีที่เข้ม อย่างเช่น เขียวเข้ม กรมท่า และเทาเป็นต้น

3.แต่งหน้าเบาๆ เพราะถ้าคุณแต่งหน้าหนาๆ สีสันจัดจ้านรองพื้นแน่นๆ บางท่านเอาลิปสติกสีฉูดฉาดมาทาต่ออีก อาจจะทำให้ใครหลายคนคิดว่าท่านไม่ให้ความเคารพครอบครัวผู้เสียชีวิตได้

4.เลือกเครื่องประดับเรียบๆ ถ้าท่านต้องการจะใส่เครื่องประดับไปในงานศพ ก็ควรเลือกอย่างระมัดระวัง คำนึงถึงความเหมาะสมของงานและให้ความเคารพครอบครัวผู้เสียหายเป็นที่ตั้ง

5.เลือกสีผ้าเช็ดหน้าให้เหมาะสม หากท่านใส่สูทไปร่วมงาน ก็ไม่แปลกที่จะมีผ้าเช็ดหน้าใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านหน้า แต่ก็ไม่ควรลืมเรื่องสีสันไป แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าก็ควรเป็นสีเข้ม เข้าไว้อย่าให้สีสันฉูดฉาดจนเกินไป

ปัจจัย อื่นๆ

1.คำนึงถึงเรื่องของความเชื่อทางศาสนา ถ้าผู้จัดงานและพิธีทางศาสนา มักจะมีข้อบังคับในเรื่องของการแต่งกายอีกทั้งยัง มีความเชื่อเป็นการส่วนตัว แต่ละศาสนาที่ต่างกันออกไปอีกด้วย โดยท่านสามารถหาข้อมูลได้จากฝ่ายครอบครัวผู้เสียชิวิตไป

2.คิดถึงขนบธรรมเนียมที่แตกต่างของแต่ละวัฒนธรรมด ถ้าผู้เสียเป็นคนจากชาติที่มีวัฒธรรมต่างกัน เพราะฉนั้นการใส่สีชุเอื่นอาจจะเหมาะสมก็ได้ ขณะที่การแต่งกายสีเข้มไปงานศพเป็นธรรมเนียมของชาติตะวักตกและประเทศไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะเหมาะวมกับทุกวัฒนธรรมเสมอไป

3.สภาพอากาศ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคิดก่อนไปไหนมาไหนอยู่แล้ว นอกจากเพื่อปกป้องฝนที่ตกลงมาแล้ว ยังสามารถนำมาบังแดดได้อีกด้วย

4.ทำตามความต้องการของผู้เสียชีวิต ท่านควรเคารพความต้องการของผู้เสียชีวิตและรวมถึงความต้องการของครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นหลัก

ที่มา https://th.wikihow.com/แต่งตัวไปร่วมงานศพ

---

ลอยอังคาร

โดยหลังจากวันที่มีการเก็บอัฐิแล้วนั้น จะมีอีกพิธีที่เรียกกันว่าลอยอังคารซึ่งมีเป็นที่หลายๆท่านสงสัยกันอยู่ว่าคืออะไร แล้วทำไมต้องลอยอังคาร ไม่ลอยพุธ พฤหัส บ้างล่ะ ผมก็เลยจะมาอธิบายถถึงที่มาและวิธีจัดการจ่างๆในพิธีกัน

ลอยอังคาร เป็น พิธีที่จัดขึ้นตามความเชื่อ โดยคาดว่าจะมีที่มาจากประเทศอินเดีย ด้วยความที่ชาวอินเดียนับถือแม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ช้วยให้ชำระล้างบาปได้ จึงเป็นเหตุให้นิยมเผาศพกันริมแม่น้ำคงคากันมาก ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้นำกระดูกและเถ้าถ่านทิ้งลงแม่น้ำคงคาได้สะดวกขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่าหากไม่ได้รับสัมผัสจากแม่น้ำคงคาแล้วนั้นจะไม่ได้ขึ้นไปสวรรค์

ส่วนเหตุผลที่คนไทยนิยม ลอยอังคาร กันนั้น นอกจากเรื่องเล่าที่มาจากประเทศแล้วยังมีความเชื่อว่าร่างกายของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นจาก ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มารวมกัน ครั้นเมื่อร่างกายแตกดับแล้วนั้นก็ควรปล่อยให้มันกลับไปอยู่ในสภาพเดิมกับตามธรรมชาติ โดย 1 ใน 4 ธาตุนั้น น้ำ เป็นหนึ่งในธาตุหลักที่มีลักษณะ ทั้งเย็น สงบ ชุ่มชื้น นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตให้กับทุกสรรพสิ่ง ทำให้เกิดเป็นความเชื่อขึ้นมาว่า การนำกระดูกและเถ้าถ่านไปลอยในแม่น้ำหรือทะเล จะทำให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมีความสุข สงบ ร่มเย็น และชุ่มชื้น เฉกเช่นเดียวกับ น้ำ